หมวดหมู่ : Applymuangthaiagent , 
Share
เพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนกับประกันชีวิตกับเรา เพื่อซื้อประกันชีวิตให้กับตัวเอง และครอบครัว คุณคิดถูกแล้วเพราะเมื่อคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตคุณจะต้องอบรม และสอบใบอนุญาตตัวเแทน ทำให้ได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการประกันชีวิต พรบ และกฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิต จากนั้นจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับแบบประกันข้อดีข้อเสียของแบบประกัน และสามารถวิเคราะห์และเลือกแบบได้ตรงตามที่ต้องการ
นอกจากนี้หากคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต ก็จะต้องสังกัดฝ่ายขาย และมีผู้จัดการขายที่มีประสบการณ์ คอยแนะนำ ให้ความรู้ แก้ปัญหา และตอบคำถามที่คุณต้องการทราบ ทั้งสอนกระบวนการขั้นตอนการขาย การตรวจสุขภาพ การเคลมเมื่อเจ็บป่วย เหมือนเป็นผู้ช่วยในการทำงาน เหมือนมีทีมงานคอยช่วยเหลือ
สมัครเป็นตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตมีผลประโยชน์อะไรบ้าง
เมื่อคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพื่อซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันลดหย่อนภาษีให้กับตนเองหรือครอบครัว สิ่งที่คุณจะได้รับคือ
6. นอกจากนี้ยังสามารถแนะนำครอบครัว เพื่อน ๆ คนรู้จัก ให้ทำประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ และได้รับคอมมิชชั่น โดยมีโอกาสได้คอยแนะนำเพื่อนๆ คนรู้จัก กรณีเจ็บป่วยถือว่าช่วยจ่ายค่ารักษา หากเสียชีวิตก็ใส่ซองงานศพจากประกันชีวิต 1-2 ล้านบาท ถือเป็นคุณค่าของอาชีพตัวแทนประกันชีวิต
ถือว่าเป็นงานและอาชีพที่ WIN - WIN ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต สามารถขายประกันแบบออนไลน์อยู่ที่ไหนก็ขายประกันได้ เช่น อยู่ที่บ้านก็ขายได้ อยู่ในร้านกาแฟก็ขายได้ ไปทำธุระนอกบ้านก็สามารถขายได้ หรือเข้าไปใช้บริการในสาขาของบริษัททั่วประเทศ จะสาขาในจังหวัด หรือในห้างสรรพสินค้าก็สามารถใช้บริการได้ หรือพาลูกค้าไปคุยที่สาขาก็ได้ และถ้าไม่อยากออกจากบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่บริษัทหรือสำนักงาน ทำงานที่บ้านได้เลย
กรณ์ธินันท์ ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)
ผู้จัดการขาย เมืองไทยประกันชีวิต
เป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลงทุนเอง
เชื่อว่านักศึกษาจบใหม่ หรือพนักงานบริษัทหลายคนมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเช่น เปิดร้านกาแฟ แต่ก็มีเรื่องเงินลงทุนที่ต้องเตรียมก่อนเปิดร้าน ได้แก่ ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ต้นทุนสต๊อกสินค้า หรือเงินมุนเวียนภายในร้าน ยังไม่รวมปัญหาต่าง ๆที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยอดขาย การทำการตลาด และปัญหาพนักงานลาออกบ่อย แต่ถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะน้อยลงหรือหมดไป เพราะธุรกิจประกันชีวิต ไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่ต้องเช่าร้าน ไม่ต้องจ้างพนักงาน ไม่ต้องเสียเงินสต๊อกสินค้า ไม่ต้องมีเงินหมุนเวียนในร้าน เพราะมีบริษัทประกันชีวิตลงทุนให้ รับผิดชอบเพียงยอดขายและการทำการตลาดกับลูกค้า แต่ได้รับผลตอบแทนหรือกำไรจากการขาย 1- 30% และไม่มีเพดานจำกัด ทำงานมากติดต่อลูกค้าได้มาก ผลตอบแทนสูง แต่ทำน้อยก็ได้น้อยเช่นกันด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ามีธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนแต่ได้ผลตอบแทนสูงถึง 30%
สมัครตัวแทนประกันชีวิตง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอนดังนี้
1.แจ้งชื่อ-นามสกุล/เลขบัตรประชาชน
2.สอบใบอนุญาตตัวแทนที่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่รัชดาภิเษก
3.หลังจากสอบผ่าน เข้าอบรมออนไลน์ผ่านระบบออนไลน์ 1 วัน(ครบ 6 ชม.)
4.หลังจากอบรมผ่านแล้วส่งเอกสารเพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนของบริษัท
5.เข้าอบรมความรู้แบบประกันและกระบวนการขาย 2 หลักสูตร A1 และ A2 รวม 4 วัน
6.สามารถเริ่มขายประกันได้
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน 3 ชุด
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด
3. สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ชุด
4. รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 รูป
5. สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น 1 ชุด
6. เอกสารคนค้ำประกัน 1 ชุด
ค่าใช้จ่ายในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต
1.ค่าสอบขอรับใบอนุญาตตัวแทน 200 บาท
2.ค่าขอรับใบอนุญาตตัวแทน 300 บาท
3. ค่าตรวจสอบประวัติบุคคล 130 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 630 บาท
หลังจากอบรมและสอบใบอนุญาตตัวแทนผ่านแล้ว ต้องทำอย่างไร
1. เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ และสินค้าเกี่ยวกับประกันชีวิต แบบประกันที่ดีหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และผู้มุ่งหวัง เช่น ประกันสุขภาพอีลิทเฮลท์ ดีเฮลท์ ประกันสุขภาพแบบ OPD ประกันโรคร้ายแรง ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตควบการลงทุน Unit link ประกันผู้สูงอายุเมืองไทยวัยเก๋า เหมาะสมและตรงกับความต้องการทุกเพศทุกวัย
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และช่วยสร้างหลักประกันให้กับทุกครอบครัวเพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนทั่วไป หากสูญเสียหัวหน้าครอบครัว ภรรยา และลูก ก็ไม่ลำบาก ลูกๆได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตามที่พ่อแม่ตั้งใจ เพราะมีเงินสินไหมจากประกันชีวิตดูแลค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ หากคนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง เจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะมีประกันสุขภาพช่วยจ่ายค่ารักษาแทน โดยไม่ต้องใช้เงินเก็บมาใช้จ่ายค่ารักษาที่แพงในปัจจุบัน หากมีคนในครอบครัว หรือคนรู้จักเสียชีวิต อย่างน้อยเงินสินไหมจากประกันชีวิต ก็นำมาใช้จ่ายในงานศพ โดยไม่ต้องไปกู้ยืม หรือใช้เงินเก็บมาเป็นค่าใช้จ่ายงานศพ ไม่ต้องลำบากลูกหลาน หรือครอบครัว หรือคนที่อยู่ข้างหลังเห็นมั้ยครับ เพียงคุณสมัครตัวแทนประกันชีวิตคุณสามารถช่วยเหลือคนได้มากมาย เป็นงานที่ได้ประโยชน์กับคนทั่วไปอย่างมาก
รายได้หลังจากสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้ว่ารายได้เมื่อสมัครเป็นตัวแทนประกัน เป็นอย่างไร และผลตอบแทน
รายได้เท่าไหร่ 1. รายได้จากการขายคอมมิชชั่น 1 - 30% เช่น นำเสนอเบี้ยประกันออมทรัพย์ 25/16 เบี้ยประกัน 20,000 บาท คอมมิชชั่น 30% จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท
2. สำหรับตัวแทนใหม่ 4 เดือนแรก หากทำคอมมิชชั่นได้ตามข้อที่ 1 คือคอมมิชชั่น 4,000 - 6,000 บาท ตามแผนที่เลือก บริษัทจ่ายเงินส่งเสริม เพิ่มอีก 4,000 - 6,000 บาท ดังนั้นจะได้เงินคอมมิชชั่น+เงินส่งเสริม รวม 8,000 - 12,000 บาท/เดือน เช่น เลือกแผน 6,000 บาท ต้องขายได้คอมมิชชั่นรวม 6,000 บาท จะได้เงินส่งเสริมอีก 6,000 บาท รวมรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน (ต้องอบรมหลักสูตร A1 = 2 วันภายในเดือนแรก และ หลักสูตร A2 = 2 วัน ภายในเดือนที่ 2 จึงจะได้เงินส่งเสริม 4,000 - 6,000 บาท)
3. รับเงินโบนัสประจำไตรมาสทุก 3 เดือนในอัตรา 15 - 30% เช่น ภายใน 3 เดือนทำคอมมิชชั่นเดือนละ 7,000 บาท 3 เดือน รวม 21,000 x 15% จะได้รับโบนัสไตรมาสอีก 3,150 บาท
4. รับเงินโบนัสต่ออายุ ถ้าหากเป็นตัวแทน 2 ปีขึ้นไปและมีลูกค้ามากเพียงพอ หาก ลูกค้าชำระเบี้ยปีต่ออายุ เช่น คอมมิชชั่น 500,000 บาทต่อปี และอัตราต่ออายุ 90% รับเงินโบนัสต่ออายุ 10% เท่ากับ 50,000 บาทต่อปี
5. เบี้ยปีต่ออายุปีที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ก็จะได้คอมมิชชั่นทุกปี จนครบกำหนดชำระเบี้ย เช่น ลูกค้าทำประกันออมทรัพย์ 25/16 ชำระเบี้ย 16 ปี ก็จะได้รับคอมมิชชั่นทุกปีจนครบ 16 ปี
1.2 กลุ่มคนไ่ม่รู้จัก
ปัจจุบันมีการทำการตลาดออนไลน์ เช่น Line Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมายในการหาลูกค้าที่ไม่รู้จัก สำหรับนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หรือคนที่ใช่นสื่อออนไลน์เป็นประจำ นอกจากต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 700-800 บาท แล้วสามารถใช้อินเตอร์เน็ตหาเงินออนไลน์ด้วยการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต แล้วหาลูกค้าจาก Line facebook กันดีกว่านะครับ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีช่องทางการ ออกบูธ จัดกิจกรรมใน ห้างสรรพสินค้างานอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือโรงพยาบาล รวมทั้งการจัดอบรมและบรรยายนอกสถานที่ราชการและบริษัทต่าง ๆ เป็นช่องทางหาลูกค้าได้อีกด้วย
2. ขายไม่เป็น พูดไม่เก่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
ในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตหลังจากอบรมและสอบผ่านแล้ว ทางบริษัทจะต้องทำการอบรมกระบวนการขาย และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้กับตัวแทนใหม่ ก่อนที่จะออกไปแนะนำลูกค้า เหมือนกับนักศึกษาทุกคนต้องมีการฝึกงาน 2-3 เดือน ก่อนที่จะจบการศึกษา หรือเหมือนกับพนักงานใหม่ที่ต้องมีการทดลองงาน 4 เดือน ซึ่งจะมีการสอนงานก่อนทำงานจริง และในธุรกิจประกันชีวิตก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการสอนงาน และประกบคู่ช่วยกันนำเสนอลูกค้า เหมือนการทำงานกลุ่ม และการทำงานเป็นทีม ถ้าช่วยกันนำเสนอ และอธิบาย หากขายได้ทีมงานก็จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน เริ่มแรกอาจจะต้องให้ตัวแทนอาวุโส หรือผู้จัดการนำเสนอขายให้ดูก่อน 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตและฝึกฝนจนขายได้ครับ
สำหรับบางท่านที่คิดว่าอาชีพตัวแทนประกันชีวิตต้องพูดเก่ง คุยเก่ง โดยอาชีพพนักงานขาย ทักษะที่สำคัญ ต้องพูดเก่ง คุยเก่ง จึงจะขายได้จริงครับ แต่อาชีพตัวแทน ที่ปรึกษาประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นั้นแตกต่างกัน ทักษะที่สำคัญคือการฟังและการถาม คือ รับฟังปัญหาของลูกค้า และสอบถามความต้องการของลูกค้า และนำมาวิเคราะห์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และนำเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า แล้วก็จะขายได้ครับ
3. ไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต ???
เป็นเรื่องจริงที่หลายคนไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนในที่ทำงาน ว่ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ขายไม่ได้ เพราะถ้าไม่เปิดตัวหรือบอกใครต่อใครว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต แน่นอนว่าไม่มีทางขายได้แน่นอน แต่มีข้อเสียนะครับ เพราะบางที ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เหล่านี้ อาจจะกำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพอยู่ก็ได้