848 จำนวนผู้เข้าชม |
สมัครเป็นตัวแทนกับประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินแบบ Parttime สำหรับผู้ที่ว่างงาน ต้องการหารายได้เสริมจากงานประจำ หรือมีงานประจำอยู่แล้วแต่รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ต้องการอาชีพที่ 2 หรือรายได้เพิ่ม
ตอนนี้ทางทีมงานต้องการขยายภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา ระยอง ต้องการทีมงานที่สนใจสมัครเป็นตัวแทนและที่ปรึกษาประกันชีวิต จังหวัดละ 2 ตำแหน่ง โดยมีฐานลูกค้าให้ด้วย พร้อมกับสอนเทคนิคการขายออนไลน์ผ่าน Facebook และเว็บไซต์ให้ด้วย สนใจสมัครด่วน จังหวัดละ 2 ตำแหน่งเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ นักศึกษาจบใหม่ พนักงานบริษัท ข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถเข้ามาสมัครตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินกับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการและนักธุรกิจ กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ พยาบาล นักบัญชี วิศวกร ทนายความ สถาปัตย์ พ่อบ้าน แม่บ้าน วัยเกษียณ
หรือใครที่กำลังว่างงาน ตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน ก็สามารถเข้ามาสมัครตัวแทนประกันชีวิต Parttime กับเราได้
" สามารถทำงานคู่กับงานประจำได้ ไม่ต้องลาออก "
สมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตอิสระเรื่องเวลาการทำงานสามารถเลือกเวลาการทำงานเองได้ เพียงคุณสามารถบริหารเวลาการทำงาน ก็สามารถสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้ เพราะเลือกเวลาทำงานแบบเต็มเวลา Fulltime เต็มเวลาได้
ตัวแทนประกันชีวิต อิสระเรื่องรายได้ และผลตอบแทนด้วยคอมมิชชั่นจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และการเงินรายได้คอมมิชชั่นเริ่มต้น 1 - 30% รวมทั้งเงินส่งเสริมรายเดือน รวมทั้งโบนัส 15-30% จากคอมมิชชั่นเริ่มต้น 20,000 บาททุกๆ 3 เดือน รวมทั้งโบนัสรายปี ในสภาวะเศรษฐกิจและ ภาวะโรค COVID-19 ถ้าตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน หรือไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ถ้ามีอีกอาชีพหนึ่งเพิ่มรายได้ ให้คุณ เป็นกระเป๋าเงินพิเศษเพิ่มขึ้นมา โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน คุณคิดว่าดีไหมครับ ถ้าจะสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต
ตัวแทนประกันชีวิต อิสระเรื่องเวลาและวันหยุดที่ได้อยู่กับครอบครัว บางท่านมีครอบครัวต้องไปรับส่งลูกไปโรงเรียนและรับกลับตอนบ่าย 2-3 โมง หากสมัครตัวแทนประกันชีวิต สามารถแบ่งและเลือกเวลาไปรับ-ส่งลูกได้ และสามารถเลือกวันหยุดได้เอง ไม่จำเป็นต้องหยุดทุกเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ก็สามารถหยุดหรือไปทำธุระส่วนตัวได้ ไม่ต้องไปเบียดเสียดกัน ซื้อของในห้างในวันหยุด หรือในวันที่ลูกหยุดปิดเทอม สามารถหยุดยาว ๆ ไปเที่ยวกับลูกๆ ได้โดยไม่ต้องขอลาพักร้อนที่ไม่รู้ว่าจะได้หยุดหรือไม่
ตัวแทนประกันชีวิต อิสระเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่ต้องรอให้อายุงานครบการโครงสร้างบริษัท ไม่ต้องรอให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าเซ็นอนุมัติเลื่อนตำแหน่ง ไม่ต้องแช่งหรือกลั่นแกล้ง เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาก่อนให้ลาออก สามารถเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการได้เร็วสุดภายในเวลา 1 ปี 4 เดือน เลื่อนเป็นผู้จัดการภาคภายใน 3 ปี 4 เดือนและสามารถเลื่อนเป็น ผู้ช่วยผู้อำนวยการภายใน 4 ปี 4 เดือน หากเป็นโครงสร้างบริษัททั่วไปอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 - 10 ปี กว่าจะขึ้นตำแหน่งผู้จัดการ และ ใช้เวลา 10-15 ปี กว่าจะขึ้นต่ำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ
แต่ถ้าคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต และก้าวเป็นผู้บริหารระดับสูง ใช้เวลาเพียง 4 ปี 4 เดือน และบริหารทีมงานอย่างอิสระ ไม่ต้องอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร
กรณ์ธินันท์ ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)
ผู้จัดการขายบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต
ตัวแทนประกันชีวิต เป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลงทุนเอง
เชื่อว่านักศึกษาจบใหม่ หรือพนักงานบริษัทหลายคนมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเช่น เปิดร้านกาแฟ
แต่ก็มีเรื่องเงินลงทุนที่ต้องเตรียมก่อนเปิดร้าน ได้แก่ ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ต้นทุนสต๊อกสินค้า หรือเงินหมุนเวียนภายในร้าน ยังไม่รวมปัญหาต่าง ๆที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยอดขาย การทำการตลาด และปัญหาพนักงานลาออกบ่อย แต่ถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ปัญหาต่าง ๆเหล่านี้จะน้อยลงหรือหมดไป เพราะธุรกิจประกันชีวิต ไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่ต้องเช่าร้าน ไม่ต้องจ้างพนักงาน ไม่ต้องเสียเงินสต๊อกสินค้า ไม่ต้องมีเงินหมุนเวียนในร้าน เพราะมีบริษัทประกันชีวิตลงทุนให้ รับผิดชอบเพียงยอดขายและการทำการตลาดกับลูกค้า แต่ได้รับผลตอบแทนหรือกำไรจากการขาย 1- 30% และไม่มีเพดานจำกัด ทำงานมากติดต่อลูกค้าได้มาก ผลตอบแทนสูง แต่ทำน้อยก็ได้น้อยเช่นกันด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ามีธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนแต่ได้ผลตอบแทนสูงสุด 30%
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอีกอาชีพที่มีอิสระในการทำงาน ได้แก่ อิสระด้านเวลาการทำงาน ไม่ต้องตอกบัตรเข้าทำงาน 8 โมงเช้า - ออก 5 โมงเย็น เลือกเวลาการทำงานและวันหยุดเองได้อิสระเรื่องรายได้ โดยมีรายได้อิสระตามความสามารถของตัวเอง ขยันทำงานมาก ๆ มีรายได้มากอิสระเรื่องความก้าวหน้า ในตำแหน่งหน้าที่การงาน หากสามารถทำผลงานตามที่กำหนด ก็สามารถเลื่อนตำแหน่งระดับสูงได้ ไม่ต้องมีอายุงาน หรือวัยวุฒิ มากำหนดความสามารถของคุณ
รับสมัครตัวแทนประกันชีวิตง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอนดังนี้
1.แจ้งชื่อ-นามสกุล/เลขบัตรประชาชน
2.กรอกใบสมัครอบรม และสอบใบอนุญาตตัวแทนที่สาขา ชลบุรี และระยอง
3.เลือกวันอบรมออนไลน์ 6 ชั่วโมงผ่านฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 8.30-16.00
4.หลังจากอบรมผ่าน ต้องสอบใบอนุญาตตัวแทนที่ สาขาชลบุรี และระยอง มีค่าใช้จ่าย 200 บาท
5.เมื่อสอบผ่าน ส่งเอกสาร ใบสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต
6.เข้าอบรมความรู้แบบประกันและกระบวนการขาย
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน 3 ชุด
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด
3. สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ชุด
4. รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 รูป
5. สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น 1 ชุด
6. เอกสารคนค้ำประกัน 1 ชุด
1. ค่าสอบขอรับใบอนุญาตตัวแทน 200 บาท
2. ค่าขอรับใบอนุญาตตัวแทน 300 บาท
3. ค่าตรวจสอบประวัติบุคคล 130 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 630 บาท
หลังจากอบรมและสอบใบอนุญาตตัวแทนผ่านแล้ว ต้องทำอย่างไร
1.เตรียมเอกสารเพื่อเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนประกันชีวิต และผู้ค้ำประกัน 1 คน
2. เข้าอบรมหลักสูตรกระบวนการขายเบื้องต้น A1 ใช้เวลา 3 วัน และ หลักสูตรผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัท A2 ใช้เวลา 2 วัน โดยมีทั้งวันธรรมดา เสาร์-อาทิตย์
3. ออกพบลูกค้าและผู้มุ่งหวัง โดยมีทีมงานช่วยในการขายและตอบข้อซักถามของลูกค้า
4. อบรมหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม
1. เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ และสินค้าเกี่ยวกับประกันชีวิต แบบประกันที่ดีหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และผู้มุ่งหวัง เช่น ประกันสุขภาพอีลิทเฮลท์ ดีเฮลท์ ประกันสุขภาพแบบ OPD ประกันโรคร้ายแรง ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตควบการลงทุน Unit link ประกันผู้สูงอายุเมืองไทยวัยเก๋า เหมาะสมและตรงกับความต้องการทุกเพศทุกวัย
2. เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ทั้งโฆษณาต่างๆ และสื่อต่าง ๆ มากมาย
3. เป็นบริษัทประกันชีวิตของคนไทย เปิดทำการมากว่า 72 ปี และเป็นบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย มีความมั่นคงมายาวนาน เปิดสาขาในประเทศไทยทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด มากมายกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ตัวแทนประกันชีวิตทำงานได้ง่าย ใช้บริการได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
4. เป็นบริษัทได้รับรางวัลบริหารงานดีเด่น 14 ปีซ้อน
5. เป็นบริษัทประกันชีวิตของคนรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการทำงานของตัวแทน
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และช่วยสร้างหลักประกันให้กับทุกครอบครัว เพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนทั่วไป หากสูญเสียหัวหน้าครอบครัว ภรรยา และลูก ก็ไม่ลำบาก ลูกๆได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตามที่พ่อแม่ตั้งใจ เพราะมีเงินสินไหมจากประกันชีวิตดูแลค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ หากคนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง เจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล
เพราะมีประกันสุขภาพช่วยจ่ายค่ารักษาแทน โดยไม่ต้องใช้เงินเก็บมาใช้จ่ายค่ารักษาที่แพงในปัจจุบัน หากมีคนในครอบครัว หรือคนรู้จักเสียชีวิต อย่างน้อยเงินสินไหมจากประกันชีวิต ก็นำมาใช้จ่ายในงานศพ โดยไม่ต้องไปกู้ยืม หรือใช้เงินเก็บมาเป็นค่าใช้จ่ายงานศพ ไม่ต้องลำบากลูกหลาน หรือครอบครัว หรือคนที่อยู่ข้างหลังเห็นมั้ยครับ
เพียงคุณสมัครตัวแทนประกันชีวิตคุณสามารถช่วยเหลือคนได้มากมาย เป็นงานที่ได้ประโยชน์กับคนทั่วไปอย่างมาก
รายได้หลังจากสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้ว่ารายได้เมื่อสมัครเป็นตัวแทนประกัน เป็นอย่างไร และผลตอบแทน รายได้เท่าไหร่
1. รายได้จากการขายคอมมิชชั่น 1 - 30% เช่น นำเสนอเบี้ยประกันออมทรัพย์ 25/16 เบี้ยประกัน 20,000 บาท คอมมิชชั่น 30% จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท
2. สำหรับตัวแทนใหม่ 4 เดือนแรก หากทำคอมมิชชั่นได้ตามข้อที่ 1 คือคอมมิชชั่น 4,000 - 6,000 บาท ตามแผนที่เลือก บริษัทจ่ายเงินส่งเสริม เพิ่มอีก 4,000 - 6,000 บาท ดังนั้นจะได้เงินคอมมิชชั่น+เงินส่งเสริม รวม 8,000 - 12,000 บาท/เดือน เช่น เลือกแผน 6,000 บาท ต้องขายได้คอมมิชชั่นรวม 6,000 บาท จะได้เงินส่งเสริมอีก 6,000 บาท รวมรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน (ต้องอบรมหลักสูตร A1 = 2 วันภายในเดือนแรก และ หลักสูตร A2 = 2 วัน ภายในเดือนที่ 2 จึงจะได้เงินส่งเสริม 4,000 - 6,000 บาท)
3. รับเงินโบนัสประจำไตรมาสทุก 3 เดือนในอัตรา 15 - 30% เช่น ภายใน 3 เดือนทำคอมมิชชั่นเดือนละ 7,000 บาท 3 เดือน รวม 21,000 x 15% จะได้รับโบนัสไตรมาสอีก 3,150 บาท
4. รับเงินโบนัสต่ออายุ ถ้าหากเป็นตัวแทน 2 ปีขึ้นไปและมีลูกค้ามากเพียงพอ หาก ลูกค้าชำระเบี้ยปีต่ออายุ เช่น คอมมิชชั่น 500,000 บาทต่อปี และอัตราต่ออายุ 90% รับเงินโบนัสต่ออายุ 10% เท่ากับ 50,000 บาทต่อปี
5. เบี้ยปีต่ออายุปีที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ก็จะได้คอมมิชชั่นทุกปี จนครบกำหนดชำระเบี้ย เช่น ลูกค้าทำประกันออมทรัพย์ 25/16 ชำระเบี้ย 16 ปี ก็จะได้รับคอมมิชชั่นทุกปีจนครบ 16 ปี
ตอบข้อสงสัยถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต จะทำได้จริงเหรอ ?
1. ไม่รู้จะหาลูกค้าจากที่ไหน กลัวเป็นตัวแทนแล้วหาลูกค้าไม่ได้
หากคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตก็จะมีผู้จัดการและทีมงานดูแลช่วยในการขาย โดยลูกค้าจะมี 2 กลุ่มคือ
1.1 กลุ่มคนรู้จัก
ได้แก่ ตัวเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าใกล้ตัวนี้ ควรจะนำเสนอก่อน เพราะ เวลากลุ่มคนนี้ เจ็บป่วย หรือป่วยเป็นมะเร็ง ต้องนอนโรงพยาบาล หากคุณเป็นสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตแล้ว นอกจากไปเยี่ยมเฉย ๆ ถ้าเขาไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลเพียงพอแล้วคุณยังสามารถช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล หรือถ้าเพื่อนสนิทของคุณเสียชีวิต คุณจะใส่ซองงานศพ 500 - 1,000 บาท หรือจะจ่ายเป็นเช็คเงินสด 1,000,000 บาท จากประกันชีวิต มอบให้ภรรยาและลูกๆ ของเพื่อนครับ ???
1.2 กลุ่มคนไ่ม่รู้จัก
ปัจจุบันมีการทำการตลาดออนไลน์ เช่น Line Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมายในการหาลูกค้าที่ไม่รู้จัก สำหรับนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หรือคนที่ใช่นสื่อออนไลน์เป็นประจำ นอกจากต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 700-800 บาท แล้วสามารถใช้อินเตอร์เน็ตหาเงินออนไลน์ด้วยการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต แล้วหาลูกค้าจาก Line facebook กันดีกว่านะครับ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีช่องทางการ ออกบูธ จัดกิจกรรมใน ห้างสรรพสินค้างานอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือโรงพยาบาล รวมทั้งการจัดอบรมและบรรยายนอกสถานที่ราชการและบริษัทต่าง ๆ เป็นช่องทางหาลูกค้าได้อีกด้วย
2. ขายไม่เป็น พูดไม่เก่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
ในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตหลังจากอบรมและสอบผ่านแล้ว ทางบริษัทจะต้องทำการอบรมกระบวนการขาย และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้กับตัวแทนใหม่ ก่อนที่จะออกไปแนะนำลูกค้า เหมือนกับนักศึกษาทุกคนต้องมีการฝึกงาน 2-3 เดือน ก่อนที่จะจบการศึกษา หรือเหมือนกับพนักงานใหม่ที่ต้องมีการทดลองงาน 4 เดือน ซึ่งจะมีการสอนงานก่อนทำงานจริง และในธุรกิจประกันชีวิตก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการสอนงาน และประกบคู่ช่วยกันนำเสนอลูกค้า เหมือนการทำงานกลุ่ม และการทำงานเป็นทีม ถ้าช่วยกันนำเสนอ และอธิบาย หากขายได้ทีมงานก็จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน เริ่มแรกอาจจะต้องให้ตัวแทนอาวุโส หรือผู้จัดการนำเสนอขายให้ดูก่อน 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตและฝึกฝนจนขายได้ครับ
สำหรับบางท่านที่คิดว่าอาชีพตัวแทนประกันชีวิตต้องพูดเก่ง คุยเก่ง โดยอาชีพพนักงานขาย ทักษะที่สำคัญ ต้องพูดเก่ง คุยเก่ง จึงจะขายได้จริงครับ แต่อาชีพตัวแทน ที่ปรึกษาประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นั้นแตกต่างกัน ทักษะที่สำคัญคือการฟังและการถาม คือ รับฟังปัญหาของลูกค้า และสอบถามความต้องการของลูกค้า และนำมาวิเคราะห์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และนำเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า แล้วก็จะขายได้ครับ
3. ไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต ???
เป็นเรื่องจริงที่หลายคนไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนในที่ทำงาน ว่ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ขายไม่ได้ เพราะถ้าไม่เปิดตัวหรือบอกใครต่อใครว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต แน่นอนว่าไม่มีทางขายได้แน่นอน แต่มีข้อเสียนะครับ เพราะบางที ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เหล่านี้ อาจจะกำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพอยู่ก็ได้
ถ้าเราไม่กล้าบอกว่าเราเป็นตัวแทน เขาอาจจะไปซื้อกับคนอื่นก็ได้ ทำให้เราเสียโอกาสที่จะขายได้ ซึ่งอยากจะแนะนำทุกท่านที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิตว่า " วันนี้ที่เข้ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพราะได้เข้ามาอบรมและศึกษาธุรกิจประกันชีวิต แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อครอบครัวและคนที่รู้จัก ยกตัวอย่าง หากเพื่อนป่วยเป็นมะเร็ง ถ้าไม่ได้เป็นตัวแทนประกัน ก็แค่ไปเยี่ยม และพูดว่าหายเร็ว ๆ นะ
แต่ถ้าเป็นตัวแทนประกันสามารถนำเสนอประกันคุ้มครองมะเร็ง และไปเยี่ยม พร้อมกับพูดว่า หายเร็ว ๆ นะ เดี๋ยวเราจะเอาเช็คประกัน
1 ล้านบาทมามอบให้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาตัว " โดยขอให้คิดเสมอว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปช่วยแก้ปัญหา ถ้าเขาไม่ต้องการเราก็ไปเสนอคนอื่น ๆ ได้ครับ เจอใครขอให้บอกไปเลยว่าเราเป็นตัวแทนประกันชีวิต ไม่ต้องกลัวครับ
สนใจสมัครตัวแทนประกันชีวิตติดต่อได้ที่
กรณ์ธินันท์ ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)
ผู้จัดการขายเมืองไทยประกันชีวิต